การขออนุญาตเกี่ยวกับวัตถุอันตราย

การแบ่งชนิดและการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายแต่ละชนิด

พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จัดแบ่งวัตถุอันตรายออกเป็น 4 ชนิด ตามความเป็นอันตราย ความเสี่ยง และความจำเป็นในการควบคุม ดังนี้

วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 

เป็นวัตถุอันตรายที่ก่อให้เกิดผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่น กฎหมายกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้า ไม่ต้องขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย แต่ต้องแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ และ​ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด เช่น การจัดทำฉลาก การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ในการผลิตและการเก็บรักษา เป็นต้น การแสดงฉลากจะต้องแสดงเลขที่รับแจ้งไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เช่น 
•  ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ที่มีสารสำคัญเป็น
   สารลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบ ( anionic surfactants) หรือสาร ลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ 
   ( nonionic surfactants ) ยกเว้น nonylphenol ethoxylate 
•  ผลิตภัณฑ์กาว ที่มีสารสำคัญเป็นสารกลุ่ม alkyl cyanoacrylate 
•  ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ ที่มีสารสำคัญเป็น calcium hypochlorite, sodium hypochlorite,    dichloroisocyanuric acid and its salts, trichloroisocyanuric acid and its salts

การแจ้งข้อเท็จจริงวัตถุอันตรายชนิดที่ 1

วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 เป็นวัตถุอันตรายที่ก่อให้เกิดผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่น ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้กฎหมาย กำหนดให้ผู้ประกอบการผลิต นำเข้า ต้องแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ และจัดทำฉลากและสถานที่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยแสดงเลขที่รับแจ้งบนฉลากผลิตภัณฑ์

ผู้ใดประสงค์จะผลิตหรือนำเข้าซึ่งวัตถุอันตราย ให้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัตถุอันตรายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบ วอ./สธ 5  ให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าแจ้งข้อเท็จจริงก่อนการผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตราย     ครั้งแรก หากสถานที่ผลิตหรือสถานที่เก็บอยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หากสถานที่ผลิตหรืสถานที่เก็บอยู่ในเขตจังหวัดอื่น     ให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ ส่วนผู้ส่งออกและผู้ครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ไม่ต้องแจ้งค่าธรรมเนียม ไม่มีอายุใบแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ไม่มีกำหนดอายุ

 ขั้นตอนการแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัตถุอันตรายชนิดที่ 1

 คู่มือการแจ้งข้อเท็จจริงและการจัดทำฉลากวัตถุอันตรายชนิดที่ 1

 Info Graphic เรื่อง การแสดงฉลากวัตถุอันตรายชนิดที่ 1

 คู่มือการขออนุญาตวัตถุอันตรายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 

วัตถุอันตรายชนิดที่ 2

เป็นวัตถุอันตรายที่มีความเป็นอันตรายหรือความเสี่ยงสูงกว่าชนิดที่ 1 กฎหมายจึงกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออกหรือผู้มีไว้ในครอบครองต้องขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายและแจ้งการดำเนินการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ี่ทราบก่อนจึงจะประกอบกิจการได้ การแสดงฉลากจะต้องแสดงเลขทะเบียนวัตถุอันตราย ไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เช่น 
•  ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงที่ใช้ในบ้านเรือนหรือทางสาธารณสุข ที่มี benzyl benzoate เป็นสารสำคัญ 
•  ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด / ฆ่าเชื้อโรค (ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญที่ถูกจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 หรือวัตถุอันตรายชนิดที่ 3)

การขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย

ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ผู้ที่จะผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 หรือ ชนิดที่ 3 จะต้องได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนก่อน จึงจะสามารถแจ้งดำเนินการเพื่อผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตราย ชนิดที่ 2 ได้ หรือจึงจะสามารถรับใบอนุญาตผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตรายในกรณีของวัตถุอันตราย
ชนิดที่ 3 ทั้งนี้อาจมีการยกเว้น วัตถุอันตรายบางรายการที่ไม่ต้องขึ้นทะเบียน เช่น ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น/ไล่แมลง ประเภทสำเร็จรูป naphthalene ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น/ไล่แมลง ประเภทสำเร็จรูป p-dichlorobenzene ผลิตภัณฑ์ลบคำผิด ชนิดที่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย หรือ มีรูปแบบ เป็นแผ่น หรือ เทป ที่มีลักษณะการใช้ โดยไม่ต้องใช้ตัวทำละลายรวมทั้งวัตถุอันตรายของหน่วยงาน บางประเภท ทั้งนี้ปัจจุบันใบสำคัญการขึ้นทะเบียนมีอายุ 6 ปี

เอกสารที่ผู้ประกอบการต้องยื่นเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการขอขึ้นทะเบียน ได้แก่
•  ฉลากของผลิตภัณฑ์ที่จะวางจำหน่าย
•  สูตรส่วนประกอบ 
•  กรรมวิธีการผลิต การบรรจุและติดฉลาก 
•  คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี 
•  เอกสารที่แสดงข้อมูลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ (SDS : Safety data sheet) 
•  ผลทดสอบประสิทธิภาพ 
   (กรณีเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดแมลงและสัตว์อื่น / ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคและผลิตภัณฑ์ซักผ้าขาว) 
•  ผลวิเคราะห์สารสำคัญ (กรณีผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยวัตถุอันตรายที่อยู่ใน 

   บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย  (ที่ต้องส่งวิเคราะห์ปริมาณสารสำคัญ)
•  Certificate of Free Sales 

   (กรณีเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาและเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทป้องกันกำจัดแมลง และสัตว์ฟันแทะ)


เนื่องจากเอกสารที่ใช้สำหรับขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเคยรับขึ้นทะเบียนไว้แล้ว และที่ยังไม่เคยรับขึ้นทะเบียน ทั้งที่เป็นวัตถุดิบ (technical grade) หรือที่เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป มีความแตกต่างกัน ดังนั้นกลุ่มควบคุมวัตถุอันตรายจึงได้จัดทำ บันทึกการตรวจสอบคำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการจัดเตรียมเอกสารเพื่อขอขึ้นทะเบียน

ค่าธรรมเนียมใบสำคัญการขึ้นทะเบียน 2,000 บาท
ค่าธรรมเนียมการต่ออายุ 2,000 บาท 
อายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียน ใช้ได้ถึง 31 ธันวาคม ของปีที่ 6 นับแต่ปีที่ออกใบสำคัญ

แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

1. คำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย (วอ.สธ 1)

2. คำขอต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย (วอ.สธ 7)

3. คำขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการการขึ้นทะเบียน (วอ.สธ 6)

4. คำขออนุญาตผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างวัตถุอันตราย (วอ.สธ 8)

5. แบบฟอร์มการส่งเอกสาร การแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติม ขอผ่อนผันการส่งเอกสาร

6. หนังสือรับรองการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาต

7. หนังสือมอบอำนาจและแต่งตั้งผู้ดำเนินการ

8. บันทึกการตรวจสอบเอกสารประกอบคำขออนุญาตผลิตตัวอย่างนำเข้าตัวอย่าง

9. บันทึกการตรวจสอบเอกสารประกอบการขอเปลี่ยนแปลงใบสำคัญใบอนุญาตใบแจ้ง

10. บันทึกการตรวจสอบหลักฐานของผู้ขออนุญาต

11. สรุปรายการข้อมูลวัตถุอันตรายกรณีสารใหม่

แนวทางการพิจารณาเอกสารประกอบการขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย

แนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับการลดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณารับขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายเพื่อการส่งออกเท่านั้น (Export only)

ขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย

คู่มือการขออนุญาตวัตถุอันตรายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

การแจ้งการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายชนิดที่ 2

ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 จะต้องขอขึ้นทะเบียน และแจ้งการดำเนินการผลิตหรือนำเข้า วัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ส่วนผู้ส่งออกจะต้องแจ้งการส่งออกผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วกับสำนักคณะกรรมการอาหารและยา

สำหรับผู้ขอมีไว้ในครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ที่มีสถานที่เก็บอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หากสถานที่เก็บอยู่ในเขตจังหวัดอื่น ให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ

​การแจ้งการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ชนิดที่ 2 ต้องจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้ 

ค่าธรรมเนียม                    ไม่มี 

ค่าธรรมเนียมการต่ออายุ       ไม่มี 

อายุใบรับแจ้งการดำเนินการ ใช้ได้ถึง 31 ธันวาคม ของปีที่ 3 นับแต่ปีที่ออกใบรับแจ้ง 

แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนการแจ้งการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ชนิดที่ 2

คู่มือการขออนุญาตวัตถุอันตรายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

วัตถุอันตรายชนิดที่ 3

เป็นวัตถุอันตรายที่มีความเป็นอันตรายหรือความเสี่ยง สูงกว่า วัตถุอันตรายสองชนิดแรก กฎหมายกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้มีไว้ในครอบครอง ต้องขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย และต้องได้รับอนุญาตให้ดำเนินการจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนจึงจะประกอบกิจการได้ การแสดงฉลากจะต้องแสดงเลขทะเบียนวัตถุอันตรายไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เช่น
•  ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงที่ใช้ในบ้านเรือนหรือทางสาธารณสุข ที่มีสารสำคัญเป็นสารกลุ่ม pyrethroids 
•  ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด / ฆ่าเชื้อโรค ที่มีกรด ด่าง หรือสารกลุ่ม ​aldehydes เป็นสารสำคัญ เป็นต้น

การขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย

ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ผู้ที่จะผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 หรือ ชนิดที่ 3 จะต้องได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนก่อน จึงจะสามารถแจ้งดำเนินการเพื่อผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตราย ชนิดที่ 2 ได้ หรือจึงจะสามารถรับใบอนุญาตผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตรายในกรณีของวัตถุอันตราย
ชนิดที่ 3 ทั้งนี้อาจมีการยกเว้น วัตถุอันตรายบางรายการที่ไม่ต้องขึ้นทะเบียน เช่น ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น/ไล่แมลง ประเภทสำเร็จรูป naphthalene ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น/ไล่แมลง ประเภทสำเร็จรูป p-dichlorobenzene ผลิตภัณฑ์ลบคำผิด ชนิดที่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย หรือ มีรูปแบบ เป็นแผ่น หรือ เทป ที่มีลักษณะการใช้ โดยไม่ต้องใช้ตัวทำละลายรวมทั้งวัตถุอันตรายของหน่วยงาน บางประเภท ทั้งนี้ปัจจุบันใบสำคัญการขึ้นทะเบียนมีอายุ 6 ปี

เอกสารที่ผู้ประกอบการต้องยื่นเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการขอขึ้นทะเบียน ได้แก่
•  ฉลากของผลิตภัณฑ์ที่จะวางจำหน่าย
•  สูตรส่วนประกอบ 
•  กรรมวิธีการผลิต การบรรจุและติดฉลาก 
•  คุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี 
•  เอกสารที่แสดงข้อมูลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ (SDS : Safety data sheet) 
•  ผลทดสอบประสิทธิภาพ 
   (กรณีเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดแมลงและสัตว์อื่น / ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคและผลิตภัณฑ์ซักผ้าขาว) 
•  ผลวิเคราะห์สารสำคัญ (กรณีผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยวัตถุอันตรายที่อยู่ใน 

   บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย  (ที่ต้องส่งวิเคราะห์ปริมาณสารสำคัญ)
•  Certificate of Free Sales 

   (กรณีเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาและเป็นผลิตภัณฑ์​​​​​​ประเภทป้องกันกำจัดแมลง และสัตว์ฟันแทะ)
​​​​


เนื่องจากเอกสารที่ใช้สำหรับขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเคยรับขึ้นทะเบียนไว้แล้ว และที่ยังไม่เคยรับขึ้นทะเบียน ทั้งที่เป็นวัตถุดิบ (technical grade) หรือที่เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป มีความแตกต่างกัน ดังนั้นกลุ่มควบคุมวัตถุอันตรายจึงได้จัดทำ บันทึกการตรวจสอบคำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการจัดเตรียมเอกสารเพื่อขอขึ้นทะเบียน

ค่าธรรมเนียมใบสำคัญการขึ้นทะเบียน 2,000 บาท
ค่าธรรมเนียมการต่ออายุ 2,000 บาท 
อายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียน ใช้ได้ถึง 31 ธันวาคม ของปีที่ 6 นับแต่ปีที่ออกใบสำคัญ​

                            
แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

1. คำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย (วอ.สธ 1)

2. คำขอต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย (วอ.สธ 7)

3. คำขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการการขึ้นทะเบียน (วอ.สธ 6)

4. คำขออนุญาตผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างวัตถุอันตราย (วอ.สธ 8)

5. แบบฟอร์มการส่งเอกสาร การแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติม ขอผ่อนผันการส่งเอกสาร

6. หนังสือรับรองการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาต

7. หนังสือมอบอำนาจและแต่งตั้งผู้ดำเนินการ

8. บันทึกการตรวจสอบเอกสารประกอบคำขออนุญาตผลิตตัวอย่างนำเข้าตัวอย่าง

9. บันทึกการตรวจสอบเอกสารประกอบการขอเปลี่ยนแปลงใบสำคัญใบอนุญาตใบแจ้ง​​

10. บันทึกการตรวจสอบหลักฐานของผู้ขออนุญาต

11. สรุปรายการข้อมูลวัตถุอันตรายกรณีสารใหม่

แนวทางการพิจารณาเอกสารประกอบการขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย 

แนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับการลดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณา
รับขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายเพื่อการส่งออกเท่านั้น (Export only)


ขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย

คู่มือการขออนุญาตวัตถุอันตรายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 

การขออนุญาตวัตถุอันตราย

ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จะต้องขอขึ้นทะเบียน และขออนุญาตผลิตหรือนำเข้า วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ส่วนผู้ส่งออกจะต้องขออนุญาตส่งออกวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วกับสำนักคณะกรรมการอาหารและยา

สำหรับผู้ขอมีไว้ในครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่มีสถานที่เก็บอยู่ในกรุงเทพมหานครให้ยื่นขออนุญาตที่สำนักงานคณะกรรมการอาหาร

และยา หากสถานที่เก็บอยู่ในเขตจังหวัดอื่น ให้ยื่นขออนุญาต ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ

การขออนุญาตวัตถุอันตราย ต้องจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้ ​
•  กรณีสถานที่เก็บรักษาวัตถุอันตรายที่เคยได้รับอนุญาต ​​
•  กรณีสถานที่เก็บรักษาวัตถุอันตรายที่ยังไม่เคยได้รับอนุญาต

ค่าธรรมเนียม  คิดตามปริมาณ การผลิต นำเข้า ส่งออก / ต่อปี 
คิดตามปริมาณและพื้นที่เก็บรักษา (เฉพาะการครอบครอง) 
(กฎกระทรวง กำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับวัตถุอันตราย พ.ศ.2552) 
ค่าธรรมเนียมการต่ออายุ เท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแต่ละประเภท
อายุใบอนุญาต ใช้ได้ถึง 31 ธันวาคม ของปีที่ 3 นับแต่ปีที่ออกใบอนุญาต 

1.คำขออนุญาตผลิตวัตถุอันตราย (แบบ วอ.1)

2. คำขออนุญาตนำเข้าวัตถุอันตราย (แบบ วอ.3)

3. คำขออนุญาตส่งออกวัตถุอันตราย(แบบ วอ.5)

4. คำขออนุญาตมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย (แบบ วอ.7)

5. คำขอต่ออายุใบอนุญาต(แบบ วอ.9)

6. บันทึกการตรวจสอบเอกสารประกอบการขอยกเลิกใบสำคัญการขึ้นทะเบียน/ใบอนุญาต/ใบรับแจ้งการดำเนินการ/ใบแจ้งข้อเท็จจริง

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตวัตถุอันตราย

 คู่มือการขออนุญาตวัตถุอันตรายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 

วัตถุอันตรายชนิดที่ 4

ได้แก่ วัตถุอันตรายที่มีความเป็นอันตรายหรือความเสี่ยงสูงทั้งจากคุณสมบัติของตัวสารเองหรือจากลักษณะการใช้ เช่น สารก่อมะเร็ง สารก่อกลายพันธุ์ สารที่เป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ หรือสารที่ห้ามใช้โดยอนุสัญญา กฎหมายจึงห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก นำผ่านหรือมีไว้ในครอบครอง

ตัวอย่างวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ในค​วามรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เช่น
สาร DDT, chlordane, dieldrin,chlorpyrifos และ chlorpyrifos-methyl ในผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดแมลง เป็นต้น​

แนวทางการพิจารณาสถานที่เก็บรักษาวัตถุอันตรายและสถานที่ผลิตวัตถุอันตรายโดยการอ้างอิงใบอนุญาตผลิต/นำเข้า/ส่งออก เดิม

คู่มือการตรวจสถานที่ผลิตฉบับล่าสุดลงในเว็บไซต์

ขั้นตอนการขออนุญาตผลิต นำเข้า/ส่งออก ครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3

การขออนุญาตผลิต

  1. การขออนุญาตผลิต วอ.3 (คู่มือประชาชนเพิ่มเติมเนื้อหาในเรื่องค่าใช้จ่ายของการขออนุญาตผลิต)
  2. แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องทั้งหมด (แยกตามประเภท)
  3. แนบ linkคู่มือการตรวจสถานที่เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมสถานที่ได้ถูกต้อง

การขออนุญาตนำเข้า/ส่งออก

 

การขออนุญาตครอบครอง